ดูดไขมันบริเวณใบหน้า (Facial Vaser Liposuction) จะเป็นการดูดไขมันในบริเวณ เหนียง คอ แก้มด้านล่าง และขอบกราม ขึ้นอยู่กับปัญหาและการสะสมของไขมันในแต่ละบุคคล เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น มองเห็นรูป กรอบหน้า และคางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ดูหน้าเล็กลง การมีไขมันสะสมอยู่บริเวณใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าช่วงล่างจะทำให้แลดูสูงอายุ การดูดไขมันทำให้รูปหน้าดูดีขึ้น
ดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม เหนียงหรือคางสองชั้น (Double Chin) คือ ไขมันใต้ชั้นผิวหนังที่ไปสะสมอยู่บริเวณใต้คาง ซึ่งทำให้หมดความมั่นใจได้ รวมถึงไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หลายคนอาจจะไม่ได้อ้วน แต่กลับมีเหนียงหรือไขมันสะสมบริเวณใต้คางเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดอุปสรรคในการถ่ายภาพ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่ดี เพราะมีใบหน้าที่ดูกลม ใต้คางเป็นชั้น หรือบางคนที่มีน้ำหนักตัวมากเกิน จนทำให้เหนียงใต้คางปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ทำให้หลายคนมีความกังวล และหาวิธีลดเหนียงต่างๆ แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ไขมันที่สะสมบริเวณเหนียงหายไปได้ โดยในปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้น คือ การดูดไขมันบริเวณเหนียง ซึ่งการดูดไขมันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการปรับรูปหน้าให้เรียว และเห็นคางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเล็กลง และสามารถถ่ายภาพได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องมีความกังวลอีกต่อไป
ดูดไขมัน เหนียง,กรอบหน้า,แก้ม เจ็บไหม ?
สำหรับบุคคลที่ต้องการดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้มและมีความกังกลในเรื่องของความเจ็บหรือคิดว่าการดูดไขมันเป็นเรื่องที่อันตรายปัจจุบันเทคนิคการดูดไขมันมีเทคโนโลยีที่ก้าวไกลและทันสมัยมากขึ้นกว่าการดูดไขมันสมัยก่อนเพื่อให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยลงในระหว่างที่ทำการดูดไขมันอีกทั้งยังอำนวยความสะดวกให้กับแพทย์มากขึ้นการดูดไขมันด้วยวิธีสมัยก่อนเครื่องมือและเทคโนโลยียังไม่พัฒนาเทียบเท่ากับการดูดไขมันในปัจจุบันซึ่งอุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปในชั้นไขมันเพื่อทำการดูดไขมันมีโอกาสสูงมากที่จะโดนเส้นเลือดเส้นประสาทและเนื้อเยื่อหากแพทย์ไม่ระมัดระวังระหว่างทำการดูดไขมันหรือมีความเชี่ยวชาญในการดูดไขมันไม่มากพอก็อาจใส่เข้าไปลึกจนถึงชั้นกล้ามเนื้อได้ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นนี้เอง
ดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม เจ็บไหม? คนไข้จะมีความเจ็บปวดในขั้นตอนการฉีดยาชาก่อนการดูดไขมัน หลังจากนั้นในช่วงแรกไปจนถึงช่วงกลาง ๆ ในระหว่างการดูดไขมัน คนไข้อาจจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บ เมื่อชั้นไขมันบางลง ไขมันที่ยังเหลือติดอยู่กับผิวหนังและกล้ามเนื้อ อาจจะทำให้คนไข้มีความรู้สึกเจ็บบ้าง หรือแปลบ ๆ บ้างในบางครั้ง แต่จะไม่เจ็บตลอดเวลา วิธีการดูดไขมันในปัจจุบันจึงเป็นที่นิยมสำหรับบุคคลที่อยากลดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม เนื่องจากเจ็บน้อย และมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม ต้องใช้ยาสลบไหม ?
โดยทั่วไปการดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม มี 2 วิธีการ คือการดูดไขมัน แบบดั้งเดิมโดยการใช้ยาสลบ และวิธีการดูดไขมันแบบปัจจุบัน เป็นการดูดไขมัน ด้วยเทคนิคการใส่ยาชา (Tumescent ) หรือสารละลายน้ำเกลือที่เนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งทั้งสองวิธีการมีผลข้างเคียงที่ต่างกัน โดยการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ สภาพร่างกายของคนไข้ และการพิจารณาของแพทย์เป็นหลักซึ่งในปัจจุบันการเลือกใช้ยาชาเฉพาะส่วน เป็นที่นิยมมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากยาชามีผลข้างเคียงน้อยกว่าและฟื้นตัวได้เร็ว
ต้องเลือก ดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม วิธีไหน ให้เหมาะกับเรา ?
ดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม เป็นที่นิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะเป็นส่วนที่เห็นได้ชัดเจนและเด่นชัดที่สุดในการใช้ชีวิตประจำวัน การดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม มีหลายวิธีการ วิธีการไหนจะเหมาะสมกับเรา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาของผิวต่างๆ เช่น ผิวขรุขระ ไม่เรียบเนียน เป็นต้น วิธีที่ใช้ในการดูดไขมัน มีด้วยกันหลายวิธี แต่ละวิธีนั้นแตกต่างกันอย่างไร ?
ดูดไขมัน FAT center มีวิธีไหนบ้าง?
การดูดไขมันในปัจจุบันนิยมแบ่ง และเรียกตามชื่อเครื่องมือที่ใช้ในการดูดไขมัน เช่น
- Bodytite
- Vaser Smooth 2.2
- Microaire PAL
โดยเครื่องมือแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่างกัน Bodytite เน้นกระชับ Vaser lipo smooth 2.2 (vaser liposuction) และ Microaire PAL เน้นดูดออกปริมาณไขมันที่มากๆบางทีจึงจะเห็นแพทย์บางท่านใช้อุปกรณ์หลายชนิดร่วมกันเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดแหละหลายคนสงสัยและเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วต้องใช้เครื่องมือไหนถึงจะดีที่สุดจริงๆแล้วการดูดไขมันออกมาให้ดีคือประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำเพราะเรื่องนี้เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝนทำบ่อยและประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำซึ่งความแม่นยำไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์ที่ดีอย่างเดียวแต่ต้องอดทนฝึกฝนทำซ้ำๆหลายๆครั้งจนมีความเชี่ยวชาญและชำนาญ
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Tite
Body Tite คือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ ในการสลายไขมัน ดูดไขมัน พร้อมยกกระชับผิว ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ เพราะนอกจากจะทำการสลายไขมันพร้อมการดูดไขมัน ภายในครั้งแรกที่ทำการรักษา ยังช่วยให้กระชับเนื้อผิวที่หย่อนคล้อยได้นอกจากจะช่วยกำจัดไขมัน คลื่นความถี่วิทยุ ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการหดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อชั้นบางๆ ที่อยู่ในผิวหนังทำให้ผิวหนังทั้งหมดกระชับขึ้น ไม่หย่อนคล้อย อีกทั้งยังทำให้รูปร่างได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของการดูดไขมัน Body Tite
- หลังทำการรักษาผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
- แผลมีขนาดเล็ก เนื่องจากเครื่องมือมีขนาดเล็ก
- ลดอาการเจ็บและการบวมช้ำ จากการดูดไขมัน
- กระชับผิวเรียบเนียนได้โดยไม่เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังการทำ
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษายกกระชับผิวเรียบเนียนได้โดยไม่เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังการทำ
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser Smooth 2.2
Vaser Smooth 2.2 เป็นวิธีการดูดไขมันโดยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ คือ การนำพลังงานเสียงมาเป็นตัวช่วยในการสลายไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวมีความละเอียด ง่ายต่อการดูดไขมันออก และเลือกเจาะจงเฉพาะตัวไขมันเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ดูดไขมันออกจนหมดในครั้งเดียว พร้อมยังมีเครื่องมือที่คอยกระชับผิวระหว่างการดูดไขมัน โดยเครื่อง Vaser Smooth 2.2 จะมีพลังงานที่สูง จึงเหมาะกับการดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง เนื่องจากดูดไขมันออกมาได้ในปริมาณมากและทำให้ผิวมีความกระชับ
ข้อดีของการดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2
- ช่วยลดอาการบวม และรอยเขียวช้ำ
- แผลเล็ก ฟื้นตัวได้เร็วกว่าการดูดไขมันแบบทั่วไป
- ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก และลดเวลาในการดูดไขมัน
- เทคโนโลยีมีความปลอดภัยได้รับการยอมรับจาก US FDA และ THAI FDA และมีประสิทธิภาพในการรักษาสูง
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Microaire PAL
Microaire PAL เป็นการใช้วิธีการดูดไขมันโดยการสั่นสะเทือนเพื่อนำไขมันออกมาจากร่างกาย เป็นวิธีที่ไม่ใช้ความร้อน ไม่เจ็บ ไม่เสี่ยงผิวไหม้ รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้ดีมากยิ่งขึ้นเพราะความถี่ในการสั่นจะช่วยให้ดูดไขมันได้ในปริมาณที่มาก รวมถึงรอยฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติ
ข้อดีของการดูดไขมัน Microaire PAL
- ลดระยะเวลาในการดูดไขมัน
- ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก
- เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมัน
- แผลเล็ก หลังทำสามารถกลับบ้านได้ทันที
- สามารถดูดไขมันซ้ำได้ในบริเวณที่เคยดูดไขมันมาก่อน
- ลดการบาดเจ็บและลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อจากการเสียดสีขณะดูดไขมัน
“เหนียง” ก้อนไขมันบางๆ ที่กำจัดยาก
ลดแก้มป่อง เรื่องง่ายๆ แต่ซับซ้อนกว่าที่คิด
ก่อนดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
ในปัจจุบันการศัลยกรรมดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม ถือเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกายได้ เปลี่ยนหน้ากลม ให้กลายเป็นหน้าเรียว ปรับใบหน้าให้เล็กลง บุคคลที่จะดูดไขมันก่อนที่จะตัดสินใจควรศึกษาข้อมูล และมีการเตรียมความพร้อมก่อนดูดไขมัน เพื่อความปลอดภัยและผลการรักษาที่ดีกับคนไข้ การเตรียมความพร้อมต้องทำอย่างไรบ้าง ?
- ก่อนจะเลือกดูดไขมัน ควรดูดไขมันกับแพทย์ที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพ และคลินิกที่ได้มาตรฐานมีใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น
- ก่อนทำการดูดไขมันต้องแจ้งแพทย์ว่ามีประวัติการแพ้ยาหรือไม่ เป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันการแพ้ยาระหว่างการดูดไขมัน
- ก่อนทำการดูดไขมันควรมีการตรวจเลือด เพื่อตรวจเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด การแข็งตัวของเลือด เกลือแร่ในร่างกาย เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
- คนไข้ต้องศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมัน และความเสี่ยงต่างๆ ศึกษากระบวนการรักษาทั้งตอนดูดไขมันและหลังดูดไขมัน
- ควรวางแผนการพักฟื้นให้ดี หลังการผ่าตัดต้องดูแลแผลเป็นอย่างดี เพราะในช่วงแรกจะมีน้ำเกลือไหลซึมออกมาจากปากแผล แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลา 1-2 วันเท่านั้น
- ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน แจ้งความกังวลกับแพทย์ว่าเรากังวลส่วนไหน ทำไมถึงอยากดูดไขมันบริเวณนี้ออก เพื่อประกอบการตัดสินใจของทั้งแพทย์และคนไข้
- คนไข้ต้องเตรียมพร้อมร่างกายก่อนดูดไขมันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก คนไข้ต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเสริมต่างๆ และยากลุ่มแอสไพริน ก่อนทำการดูดไขมันอย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ทำไมต้องดูดไขมัน เหนียง คางสองชั้น แก้มป่อง ที่ FAT center
- ฟื้นตัวไวแผลหายได้รวดเร็วบวมช้ำน้อย
- ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้นที่คลินิก
- ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน ปลอดภัย
- ทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิด อบอุ่น เป็นกันเอง
- ราคาตรงปกไม่แพง
- ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์พร้อมให้คำปรึกษาอย่างตรงจุด
ดูดไขมัน เหนียง คางสองชั้น แก้มป่อง เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้า จนขาดความมั่นใจ
- เหมาะกับผู้ที่มีความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ยังดีอยู่ (อายุยังไม่มาก ไม่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังมากเกินไป)
- คนที่มีกรอบหน้าไม่ชัด มีไขมันเยอะ
- น้ำหนักน้อยรูปร่างสมส่วนแต่หน้ากลมแก้มเยอะ
- ผู้ที่น้ำหนักเยอะมีไขมันสะสมทั้งใบหน้าแก้มเหนียงใต้คางเยอะ
การดูดไขมัน เห็นผลถาวรหรือไม่
การดูดไขมัน ให้ผลกึ่งถาวร แตกต่างจากการลดน้ำหนักที่เซลล์ไขมันยังคงอยู่ในบริเวณเดิม เพียงแค่ลดขนาดลง แต่การดูดไขมันเป็นการนำเซลล์ไขมันออกไปจากบริเวณเดิม หากน้ำหนักคงที่ไม่มีไขมันมาสะสมเพิ่ม ก็จะคงผลลัพธ์เดิมไว้ได้ในระยะยาว แต่หากมีน้ำเพิ่มขึ้น ก็จะมีการสะสมไขมันบริเวณอื่นๆ ก่อนบริเวณที่ทำการดูดไขมัน
ทำไม ก่อนดูดไขมันควรเข้ามาพบแพทย์ก่อน ??
การเข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อนนั้นตัดสินใจทำการดูดไขมันสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันบริเวณไหนก็ตาม เพราะจะได้ทำการตรวจโครงสร้างที่แท้จริงของคนไข้ ตรวจบริเวณที่มีไขมัน ตรวจการหย่อนของกล้ามเนื้อ เพื่อพิจารณาวิธีการดูแลให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บางครั้ง การที่คนไข้กังวลในบริเวณใบหน้า อาจเหมาะกับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆมากกว่าการดูดไขมัน
ดูดไขมัน เหนียง,กรอบหน้า,แก้ม มีขั้นตอนอย่างไร ?
ขั้นตอนการดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม เพื่อเตรียมพร้อมก่อนดูดไขมัน สำหรับบุคคลที่กำลังตัดสินใจจะดูดไขมันเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม ควรศึกษาการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันและขั้นตอนการดูดไขมัน เพื่อป้องกันการผิดพลาดหรือปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ขั้นตอนการดูดไขมัน เป็นการนำไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการออก ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ วันนี้ FAT center มี ขั้นตอนการดูดไขมัน มาให้ทุกคนได้อ่านเพื่อเตรียมตัวก่อนมาดูดไขมัน ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?
1.การฉีดสารละลายน้ำเกลือ (Tumescent)
แพทย์ฉีดยาชา เพื่อเปิดแผล ขนาดประมาณ 0.5-1 cm หลังจากนั้นตัวยาชาและอะดรีนาลีนจะถูกฉีดเข้าไปในบริเวณเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม เพื่อช่วยระงับความรู้สึกและช่วยลดอาการเสียเลือด การดูดไขมันด้วยเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และช่วยทำให้สามารถดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้น
2.ขั้นตอนการดูดไขมัน
หลังจากการใส่ยาชาจนทั่วแล้ว จะเป็นขั้นตอนของการสลายไขมันบริเวณเหนียง,กรอบหน้า,แก้ม เพื่อทำการสลายเซลล์ไขมันให้แตกออกโดยที่ไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ เช่นเส้นเลือด หรือเส้นประสาทอื่นๆ เมื่อไขมันแตกสลายเป็นน้ำหมดแล้ว แพทย์จะทำการดูดไขมันออก โดยใช้เครื่องดูดไขมัน
3.ขั้นตอนการทำแผล
เมื่อดูดไขมันเสร็จจนหมดแล้ว แผลจะมีขนาดเล็ก หลังการผ่าตัด จะมีน้ำเกลือไหลออกมาจากแผลผ่าตัด ไม่เกิน 24-48 ชั่วโมง น้ำเกลือและยาชาที่ไหลออกมาจะช่วยทำให้ลดอาการบวมของแผล และยุบบวมได้เร็ว หลังการรักษา คนไข้ต้องดูแลแผลเป็นอย่างดี ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หลังทำการดูดไขมัน ไปแล้วจะเป็นอย่างไร
หลังทำการดูดไขมันจะยังคงรู้สึกชา ที่สำคัญคือการชาจากยาชาอาจจะใช้เวลาหลายชั่วโมง อีกทั้งอาจจะมีอาการชามาที่ริมฝีปาก และหรืออาจมีอาการปากตกอ่อนแรง ไม่เท่ากันและดื่มน้ำแล้วอาจจหลุดรั่วออกมา ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายไปเองในสองสามวัน บางรายอาจจะอยู่นานกว่านั้น
“หลังทำ” ดูดไขมันเหนียง,กรอบ,แก้ม ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ?
การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดรูปแบบหนึ่ง ความเจ็บปวดหรืออาการบวมช้ำต้องปรากฏอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากการดูดไขมัน การดูแลตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ และยังสามารถช่วยให้แผลจากการดูดไขมันหายเร็วขึ้น แต่การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันจะต้องทำอย่างไรบ้าง มีข้อปฏิบัติต่าง ๆ ดังนี้
- ควรดื่มน้ำในปริมาณมาก อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
- งดการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันแผลเปิด
- หากเกิดความผิดปกติหลังการดูดไขมัน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- งดทานแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง รวมไปถึงการสูบบุหรี่เพื่อป้องกันแผลหายช้า
- ควรทำความสะอาดแผล 1-2 ครั้งต่อวัน แผลห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 7 วัน ตามคำแนะนำของแพทย์
- หลังจากดูดไขมันแล้วควรพักผ่อนให้เพียงพอ และขยับร่างกายบ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันอาการบวมช้ำ
- งดอาบน้ำในวันที่ดูดไขมัน โดยแนะนำเป็นการอาบน้ำในวันถัดไป และควรแปะพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้งก่อนอาบน้ำ
- ใส่สายรัดหน้าตลอด 24 ชั่วโมงใน 7 วันแรก หลังจากนั้นจึงค่อยลดลงตามความเหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์
- รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันทุกวันจนหมด ควรรับ
- ประทานยาแก้ปวด และยาลดอาการบวม เมื่อมีอาการเท่านั้น
- ในส่วนของขั้นตอนการดูดไขมันนั้น คนไข้จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นไว้ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวก่อนดูดไขมันได้อย่างถูกวิธี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการดูดไขมัน
การใส่ชุดกระชับเหนียง สำคัญยังไง?
รอข้อมูล
ประโยชน์ของชุดกระชับ
- รอข้อมูล