ดูดไขมันต้นขา ให้ขาเรียวสวย

ดูดไขมันต้นขา ให้ขาเรียวสวย บริเวณต้นขาเป็นปัญหาใหญ่ของผู้หญิง เพราะบริเวณนี้มีการสะสมไขมันได้ง่ายแต่ ” ลดยาก ”

ไขมันส่วนใหญ่จะชอบสะสมบริเวณต้นขา ทั้งด้านนอกและด้านใน ส่วนมากแม้จะผอมอยู่แล้ว หรือลดน้ำหนักแล้วแต่ขาก็ไม่ลดลงด้วย ถึงแม้ว่าจะพยายามออกกำลังกายอย่างเต็มที่ ก็ยังมีต้นขาที่ใหญ่อยู่ ยิ่งบริเวณต้นขาด้านนอก หรือบริเวณสะโพก ที่มักจะเจอปัญหานี้ได้ง่าย ทำให้หุ่นเป็นหุ่นลูกแพร์ดูไม่สมส่วน บางท่านมีเอวที่เล็กแต่มีปัญหาต้นขาใหญ่ทำให้หากางเกงใส่ยาก ใส่กางเกงออกมาก็ดูไม่สวยงาม วิธีแก้ปัญหาที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว และใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน นั่นก็คือการ ดูดไขมันต้นขา ที่ FAT center

ดูดไขมันต้นขา ต้องดูดไขมันมากแค่ไหนถึงจะสวย

ต้องดูดไขมันทั้งขาเลยหรือไม่? เป็นข้อสงสัยของคนไข้หลายคน การ ดูดไขมันต้นขา นั้นมีปัจจัยหลายอย่าง ขึ้นกับรูปร่างและปริมาณไขมันเป็นหลัก ในคนที่ไม่อ้วนมากหรือมีน้ำหนักน้อยอยู่แล้วแต่มีปัญหาส่วนเกินทำให้เป็นกังวลมีสรีระไม่สวยงาม  การดูดไขมันเฉพาะบริเวณต้นขาด้านนอก หรือเรียกอีกอย่างว่าบริเวณสะโพก ที่เป็นจุดเด่นชัดเวลาใส่กางเกง หรือกระโปรง บางครั้งกำจัดแค่บริเวณเดียวก็ได้ผลที่สวยงามแล้ว ซึ่งลักษณะของไขมันด้านในและด้านนอกมีความแตกต่างกัน ไขมันต้นขาด้านนอกจะดูดไขมันได้ง่ายกว่า และได้ผิวที่เรียบเนียนมากกว่า ส่วนต้นขาด้านในนั้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์เพื่อขาที่เรียวสวย ผิวเรียบ สวยงามเท่ากันทั้งสองข้าง ทั้งนี้ก็ต้องให้แพทย์ช่วยประเมินด้วยว่าต้องดูดไขมันมากน้อยแค่ไหน และมีความจำเป็นต้องดูดไขมันทั้งขาหรือไม่

ปัญหาเรื่องต้นขาใหญ่

  • ใส่กางเกงแล้วติดสะโพก สาเหตุนี้คือมีปัญหาขาที่ไม่สมส่วนกับสรีระร่างกาย
  • ขาใหญ่กว่าช่วงเอวมาก หรือ เรียกอีกอย่างว่ามีหุ่นในลักษณะทรงลูกแพร์

คำแนะนำของแพทย์เรื่อง ขาใหญ่

โดยแพทย์จะประเมินตามสรีระจริงของคนไข้ เพราะคนไข้บางคนมีปัญหาในแต่ละจุดที่แตกต่างกันออกไป บริเวณที่แนะนำให้ดูดไขมันก่อนบริเวณแรกเลยคือ ต้นขาด้านนอก เพราะเป็นบริเวณที่ดูดไขมันออกไปแล้ว ขนาดตัวของคนไข้จะเห็นผลอย่างชัดเจนเวลาใส่เสื้อผ้า จะดูตัวเล็กลง และบริเวณต้นขาด้านนอกนี้เป็นบริเวณที่ดูดไขมันออกได้ง่ายกว่าขาด้านใน ได้ผลในการเปลี่ยนสรีระที่ดีกว่า เจ็บน้อยกว่า รวมถึงการดูแลแผลทำได้ง่ายกว่าอีกด้วย

ส่วนของการดูดไขมันต้นขาด้านในนั้น ก็เป็นบริเวณที่คุณสาวๆ มีความกังวลมากเหมือนกัน บางท่านมีปัญหาต้นขาใหญ่ เวลาเดินจะเกิดการเสียดสีกันบริเวณขาด้านใน หรือเรียกอีกอย่างว่าขาเบียด เมื่อปล่อยไว้เป็นเวลานาน ผิวบริเวณนั้นจะเสียดสีจนเกิดความดำคล้ำดูไม่สวยงาม หรือบางท่านอาจเกิดแผลบริเวณขาเบียดได้เลย ส่วนมากปัญหาขาเบียดนี้จะเกิดขึ้นมากในคนไข้ที่มีไขมันมาก น้ำหนักตัวมาก ไขมันบริเวณต้นขาด้านในสะสมเยอะ จึงอยากแก้ไขปัญหาบริเวณขาเบียดให้เร็วที่สุด เพื่อการใช้ชีวิตได้ง่ายมากขึ้น การดูดไขมันต้นขาเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหานี้อย่างได้ผล  ในคนไข้บางรายแค่ดูดไขมันบริเวณต้นขาด้านนอกก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้รูปร่างโดยรวมดูผอมบางลง ใส่กางเกงรัดรูปได้ง่ายขึั้น แต่ถ้ายังต้องการผลที่ดีขึ้นอีกจึงค่อยดูดไขมันต้นขาด้านในเพิ่ม

การดูดไขมันต้นขาด้านนอก ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพราะรูปไขมันมักจะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ต้นขาเป็นตำแหน่งที่ดูดไขมันแล้วดูบุ๋มง่ายดูดไขมันให้สวยยาก และด้วยความที่ไขมันบริเวณขาดูดไขมันออกง่าย ก็จะทำให้เป็นคลื่นได้ง่ายด้วย ดังนั้นก่อนทำจึงต้องมีการประเมินอย่างดีก่อน และต้องให้แพทย์ที่ชำนาญเป็นคนประเมินและดูผิวบริเวณนั้นให้ถี่ถ้วนก่อน

ดูดไขมันขาบวมกี่วัน? อาการที่เกิดขึ้นหลังดูดไขมันมีอะไรบ้าง?

หลังดูดไขมันต้นขา จะมีอาการแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ระยะเวลาในการดูดไขมันบริเวณขานั้นอาจจะใช้เวลานานพอสมควรเพราะแพทย์ต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อให้คนไข้มีขาที่เรียวสวย เครื่องดูดไขมันก็เป็นส่วนสำคัญ, ปริมาณไขมันที่ดูดไขมันออกมาได้, ยาชาที่ใส่เข้าไป รวมไปถึงสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละคนด้วย ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นหลังดูดไขมันทันที มักจะเป็นอาการวิงเวียน หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ยาชา รวมไปถึงการสูญเสียน้ำภายในร่างกาย ระหว่างทำการดูดไขมันด้วย จึงต้องมีการดื่มน้ำในปริมาณมากๆ หลังดูดไขมันเพื่อให้ขับยาชา และน้ำเกลือที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกายออกมาทางปัสสาวะ และทดแทนการสูญเสียน้ำระหว่างดูดไขมัน อาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากนี้จะมีอาการปวดเกิดขึ้นได้ เปรียบเสมือนเพิ่งออกกำลังกายมาหนักๆ และอาจมีอาการบวมเกิดขึ้น ทั้งนี้อาการดังกล่าวจะดีขึ้นช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละคนว่ามีวินัยในการดูแลตัวเองมากแค่ไหน รับประทานยาครบหรือเปล่า ดื่มน้ำมากพอไหม ดูแลแผลได้ดีหรือไม่ ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายฟื้นฟูเร็วและลดอาหารบวมได้อีกด้วย

การปฏิบัติตัวหลังดูดไขมันต้นขา

  1. หลังดูดไขมันต้นขาไปแล้ว จะมีน้ำซึมออกจากแผลประมาณ 1-2 วัน หลังจากนั้นจะหยุดไหลไปเอง คนไข้ไม้ต้องกังวลเพราะเป็นอาการปกติหลังจากดูดไขมัน
  2. แผลดูดไขมันจะเย็บด้วยไหมชนิดต้องตัดออก โดยแพทย์จะนัดมาตัดไหมหลังจากดูดไขมันไปแล้ว 1 สัปดาห์ ในระหว่างนั้นคนไข้ต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ
  3. ใส่ชุดกระชับรัดบริเวณขา โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนแรกควรสวมชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง ให้ถอดได้เฉพาะเวลาอาบน้ำ ทั้งนี้เพื่อให้ผิวหนังบริเวณขามีความกระชับและได้ขาที่สวยงาม
  4. หลังจากดูดไขมัน จะมีอาการปวดล้า บริเวณกล้ามเนื้อต้นขาบ้าง แต่สามารถเดินได้ตามปกติ และสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที
  5. สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 4 สัปดาห์
  6. อาการช้ำ และปวด จะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่อาการบวมจะเป็นนานมากที่สุด ซึ่งอาจจะนานถึง 3 เดือน ทั้งนี้เพราะการดูดไขมันขา จะไปรบกวนระบบน้ำเหลืองและการไหลเวียนเลือดได้บ้าง ทำให้ฟื้นตัวนานสุด

โดยปกติแล้วหลังจากอาการบวมหายไปก็จะเริ่มเห็นผลชัดขึ้น แต่จริงๆ แล้วหลังจากดูดไขมันเสร็จก็จะสามารถเห็นผลได้ทันทีเช่นกัน ภายหลังการดูดไขมันควรใส่ชุดกระชับขา เพื่อให้ผิวหนังหดตัวและกระชับตัวได้เร็วขึ้น โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์เป็นต้นไปผิวบริเวณที่ดูดไขมันถึงจะเข้าที่

ติดตามรับข่าวสารดี ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/FATcenter

โปรโมชั่นพิเศษ
เฉพาะลงทะเบียน ออนไลน์เท่านั้น

[[ FAT center ]] ดูดไขมัน..แบบปลอดภัย อบอุ่น ใส่ใจ 💕ดูแลอย่างใกล้ชิดโดย…ทีมแพทย์ทุกขั้นตอน

✅มาตรฐาน ✅ปลอดภัย ✅ตรงปก ✅ไม่แพง

ติดตามรับโปรโมชั่นดีๆได้ที่นี่