ข้อควรรู้เกี่ยวกับการ ดูดไขมัน เติมไขมัน
ดูดไขมัน (Liposuction) และการ เติมไขมัน เป็นกระบวนการเพื่อความงามของรูปร่าง เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกิน โดยใช้วิธีการดูดไขมันในชั้นใต้ผิวหนังออกจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยการดูดไขมันเฉพาะจุดที่คนไข้กังวล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไขมันที่ลดได้ยากแม้ว่าจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว บริเวณที่นิยมดูดไขมัน คือ หน้าท้อง ต้นขาด้านนอกหรือด้านใน สะโพก แขน เหนียง และแก้ม ไม่ว่า ดูดไขมัน หรือ เติมไขมัน เป็นวิธีทางการแพทย์ที่อาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ เรามาทำความรู้จักการดูดไขมันได้ดังนี้ค่ะ
1.ขั้นตอนการในดูดไขมัน
ขั้นตอนการดูดไขมันที่เป็นที่นิยมกันคือการฉีดสารละลายน้ำเกลือ Saline ซึ่งประกอบด้วยยาชาและอะดรีนาลีนเข้าไปในเนื้อเยื่อไขมันเพื่อช่วยระงับความรู้สึกและลดการเสียเลือด ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ช่วยให้สามารถเอาไขมันออกมาได้ง่าย นอกจากนั้นยังช่วยลดรอยช้ำและอาการบวม
2.การดูดไขมันเหมาะกับคนกลุ่มไหนบ้าง?
การดูดไขมันเป็นความต้องการของคนหลายกลุ่ม เพราะความต้องการแตกต่างกันออกไปบางคนต้องการดูดไขมันทั้งตัว บางคนกังวลแค่บางบริเวณมีส่วนเกินบางบริเวณ การดูดไขมันเหมาะกับกลุ่มคนดังนี้
- สำหรับผู้ที่มีรูปร่างและน้ำหนักตัวที่ปกติและต้องการจะมีสัดส่วนที่ดีขึ้นหรือต้องการที่จะมีสัดส่วนในแบบที่ต้องการ
- ผู้ที่น้ำหนักตัวมากเกินไป มีไขมันสะสมทั้งร่างกาย ต้องการกำจัดไขมันทั้งตัว แต่ทั้งนี้ต้องให้แพทย์ประเมินร่างกายและมวลไขมันอย่างละเอียดก่อนการดูดไขมัน
3.ข้อควรรู้เกี่ยวกับเทคนิคการดูดไขมัน
อย่างที่รู้กันในปัจจุบันการดูดไขมันเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวอยู่ที่คลินิกหรือ โรงพยาบาลแล้ว แพทย์จะทำการเปิดแผลเล็กๆ เจ็บน้อย ใช้ชีวิตหลังดูดไขมันได้อย่างปกติ โดยจะใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันประมาณ 2-3 ชั่วโมงในแต่ละบริเวณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของคนไข้ หลังจากการดูดไขมันเรียบร้อยแล้ว อาจจะมีน้ำไหลซึมออกจากแผลได้ นอกจากนั้น บริเวณที่ดูดไขมันอาจจะเกิดอาการช้ำ บวม และมีความเจ็บปวดหลังการดูดไขมัน แต่จะเป็นเพียงไม่กี่สัปดาห์อาการเจ็บปวดก็จะหายไป รวมทั้งอาการช้ำที่เกิดขึ้น
4.เรื่องที่คุณควรรู้และเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
ก่อน ดูดไขมัน คนไข้จะต้องเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีหลังการดูดไขมัน วิธีปฎิบัติตัวมีดังนี้
1.งดอาหารเสริมบางชนิดก่อนการดูดไขมัน 1-2 สัปดาห์
ตัวยาที่ควรงด เช่น ยาลดการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน ยารักษาอาการซึมเศร้า อาหารเสริมบางชนิดก็มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดได้ เช่น น้ำมันปลา หรือวิตามิน E ดังนั้นจึงควรหยุดก่อนการทำประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดการเขียวช้ำ
2.แจ้งแพทย์เรื่องโรคประจำตัว
การที่คนไข้แจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนการผ่าตัดถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะโรคประจำตัวบางโรคส่งผลต่อการผ่าตัดโดยตรง หรือแม้กระทั้งประวัติการแพ้ยา ยกตัวอย่างโรคที่ต้องแจ้งแพทย์ เช่น โรคหัวใจ ไทรอยด์ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น โรคเหล่านี้เป็นโรคที่ต้องให้แพทย์พิจารณาก่อนการดูดไขมันว่าสามารถดูดไขมันได้หรือไม่ คนไข้บางรายปกปิดข้อมูลกลัวว่าจะดูดไขมันไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะส่งผลต่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเติมไขมัน
ความรู้เกี่ยวกับการเติมไขมัน ปัจจุบันเทคนิคการฉีดไขมันกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นเทคนิคใหม่ที่ไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เทคนิคการเติมไขมันสามารถทำได้ทั้งการเติมไขมันบนใบหน้าเพื่อความอ่อนเยาว์ หน้าดูเด็กลง อีกหนึ่งบริเวณที่นิยมของคุณผู้หญิงคือการเติมไขมันหน้าอกแทนการเสริมซิลิโคนเพื่อหน้าอกที่ดูใหญ่ขึ้นแต่ยังคงความธรรมชาติ การเติมไขมันต้องอาศัยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
1.การเติมไขมันหน้าอก คือ?
การเติมไขมันหน้าอก คือ การฉีดไขมันเข้าไปบริเวณหน้าอกเหมาะกับคนที่ต้องการความอวบอิ่มและเต่งตึงมีหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นแบบธรรมชาติ ได้รูปทรงที่สวยขึ้นจากเดิม อีกทั้งยังลดปัญหาความหย่อนคล้อยของหน้าอก การเติมไขมันเป็นขั้นตอนการดูดไขมันในร่างกายออกมาและฉีดกลับเข้าไปที่หน้าอกโดยผ่านกระบวนการทางการแพทย์
2.ไขมันที่นำมาใช้ในการเติมไขมัน นำมาจากส่วนไหนของร่างกาย?
คนไข้ทุกท่านต้องเข้ารับการตรวจร่างกายจากทีมแพทย์ก่อนว่าคนไข้มีความต้องการที่จะให้ดูดไขมันจากส่วนไหนมาเติมหน้าอก บริเวณที่คนไข้นิยมเลือก คือ หน้าท้อง ต้นขา สะโพก
ก่อนเติมไขมันหน้าอก
- คนไข้ควรเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์โดยตรง เพื่อรับข้อมูลอย่างถี่ถ้วนเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนตัดสินใจเติมไขมันหน้าอก เรื่องที่ควรแจ้งแพทย์คือโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา
- ต้องตรวจร่างกายก่อนทำการรักษา เจาะเลือดเพื่อดูผลเลือด กรณีเติมไขมันหน้าอก ต้องมีการตรวจมะเร็งเต้านมร่วมด้วยเพื่อความปลอดภัยของคนไข้
3.ขั้นตอนการเติมไขมันหน้าอก
แพทย์จะทำการดูดไขมันจากบริเวณที่คนไข้กังวลและต้องการให้ดูดไขมันออก เมื่อดูดไขมันจากบริเวณนั้นเสร็จแล้ว แพทย์จะนำไขมันที่ได้ มาคัดแยกให้ได้ไขมันที่ดีและพร้อมสำหรับฉีดเข้าไปที่หน้าอก เมื่อได้ไขมันมาแล้วแพทย์จะฉีดเข้าไปที่หน้าอกเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่คนไข้ต้องการ เพื่อหน้าอกที่เต่งตึงมากขึ้น
การเติมไขมันหน้า
การฉีดไขมันหน้า คือวิธีการเติมเต็มชั้นใต้ผิวหนัง ของใบหน้าในบริเวณที่เกิดความหย่อนคล้อย หรือมีจุดบกพร่องที่เห็นได้ชัด โดยการใช้ไขมันของตัวคนไข้เอง ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะปลอดภัยคงทน ไม่เกิดการแพ้ เพราะเป็นไขมันของตัวเราเอง
1.ฉีดไขมันบริเวณไหนของใบหน้าได้บ้าง?
เราสามารถฉีดไขมันบนใบหน้าได้หลายบริเวณ ยกตัวอย่างเช่น การเติมเต็มในส่วนของหน้าผากให้หน้าผากนูนสวย หน้าดูเด็กลง เติมเต็มบริเวณใต้ดวงตาเพื่อลดปัญหาความคล้ำใต้ตาและริ้วรอยใต้ตา ปรับรูปหน้าให้เต่งตึง เติมเต็มร่องแก้ม เป็นต้น
2.ใครเหมาะกับการฉีดไขมันหน้า?
เหมาะกับบุคคลที่อยากเปลี่ยนแปลงใบหน้าตัวเอง อยากมีใบหน้าที่สวยดูดีขึ้น การฉีดไขมันช่วยใต้ตาคล้ำ แก้มตอบ ร่องแก้มชัด อีกทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูหวานมีมิติมากยิ่งขึ้น และยังเหมาะกับคนที่มีริ้วรอยบนใบหน้าเยอะ หน้าแก่ต้องการที่จะหน้าดูเด็กลง เหมาะกับคนที่เป็นกังวลเกี่ยวกับสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าไปในใบหน้า เพราะการเติมเต็มโดยการใช้ไขมันตัวเองเป็นวิธีที่ปลอดภัยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายภายหลัง วิธีการเติมไขมันจึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันนี้
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนไข้กังวลเกี่ยวกับใบหน้า
- คนที่แก้มตอบ มักทำให้ใบหน้าดูโทรม และดูมีอายุ
- คนที่มีโหนกแก้มสูง แต่ไม่อยากศัลยกรรมตัดกระดูกยุบโหนกแก้มเพื่อแก้ไขทรงใบหน้า การฉีดไขมันก็จะช่วยได้
- คนที่อยากเติมเต็มหน้าผากให้โหนกนูน เพราะรูปทรงของหน้าผากที่ดีนั้นควรมีมิติ รับกับรูปหน้า
- คนที่อยากเปลี่ยนแปลงหน้าให้ดูเด็กลง การฉีดไขมันสามารถเปลี่ยนแปลงให้มีความละมุนขึ้นได้
ระยะเวลาไขมันจะอยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดไขมันบริเวณใบหน้า โอกาสที่เซลล์ของไขมันจะอยู่ติดหลังการฉีดไขมันจะอยู่ 30 – 80 % ถ้าคนไข้ทำกับทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการเติมไขมันก็จะมีโอกาสติดสูงถึง 70% และอยู่ได้นานเป็นปี โดยที่ไม่ต้องกลับมาเติมซ้ำ เมื่อไขมันติดเรียบร้อยแล้ว จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
สรุปการฉีดไขมัน
การฉีดไขมันหน้า และบริเวณหน้าอก คือการเติมเต็มบริเวณที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงสดใส ฉีดบริเวณใบหน้า หน้าก็จะดูเด็กลง มีรูปหน้าที่สวยมากขึ้น ฉีดไขมันหน้าอก ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยจะหายไป คนไข้จะกลับมามีหน้าอกที่เต่งตึงสวยแบบธรรมชาติ ทั้งนี้อยู่ที่ความพึ่งพอใจของตัวบุคคล แล้วต้องทำกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เท่านั้น
หลักการเลือกสถานที่ดูดไขมันที่ดี
ทีมแพทย์
คนไข้ต้องศึกษาข้อมูลแพทย์ที่จะทำการรักษาว่า แพทย์ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการดูดไขมัน มีใบประกอบวิชาชีพ ใบรับรองที่ถูกต้อง ต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง เพราะการดูดไขมันถือว่าเป็นเรื่องยากพอสมควร ดูดไขมันยังไงให้สวย ดูดไขมันยังไงให้ปลอดภัยไม่ใช่ใครก็ทำได้ การให้คำแนะนำของทีมแพทย์ต้องเป็นไปตามหลักความจริง ทั้งรูปร่าง และสรีระร่างกายของคนไข้ รวมถึงน้ำหนัก และมวลร่างกาย
สถานที่
สถานที่สำหรับการดูดไขมัน ตั้งแต่ด้านนอกที่รับรองต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะของโรงพยาบาล หรือคลินิก การบริการก็มีส่วนสำคัญที่คนไข้จะตัดสินใจดูดไขมันกับทางคลินิก ห้องผ่าตัดต้องพร้อมสะอาด และถูกหลัก มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตเตรียมพร้อมเสมอ ที่ FAT center เป็นศูนย์ดูดไขมันที่มีคุณภาพ และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการดูดไขมันโดยตรง อีกทั้งมีการบริการที่ใส่ใจลูกค้าทั้งก่อนดูดไขมันและการติดตามผลหลังดูดไขมัน เพราะฉะนั้นคนไข้สามารถวางใจได้เลยว่าศูนย์ดูดไขมันของเราได้มาตรฐานอย่างแน่นอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fatcenterbkk.com/
รีวิวจากผู้รักษาจริง
ศึกษารีวิวของทางคลินิกอย่างถี่ถ้วน ว่ามีผลเป็นอย่างไรบ้าง เห็นผลจริงหรือป่าว ผลที่ได้ออกมาพึงพอใจต่อผู้เข้ารักษาจริงหรือไม่ ศึกษาเกี่ยวกับแพทย์ และคลินิกให้ถี่ถ้วนเพื่อประกอบการตัดสินใจดูดไขมัน หรือเพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง ทั้งนี้สามารถดูรีวิวได้กับ https://fatcenterbkk.com/ อีกอย่างที่เราจะขาดไปไม่ได้เลย ควรหาข้อมูลแพทย์และสถานที่ที่สามารถเชื่อถือได้และมีมาตรฐาน เพราะในสมัยนี้มีคลินิกใหม่ๆ มากมายเต็มไปหมด การอ่านรีวิวอย่างละเอียดจึงเป็นประโยชน์ต่อคนไข้มากที่สุด
ติดตามรับโปรโมชั่นดูดไขมันได้ที่นี่
ติดตามรับข่าวสารดี ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/FATcenter
เฉพาะลงทะเบียน ออนไลน์เท่านั้น