ผิวย้วย หย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีสาเหตุจากอะไร?

ผิวย้วย หย่อนคล้อย ไม่กระชับ

รู้ไหมคะ? ว่าทำไมเราถึงมี ผิวย้วย หย่อนคล้อย ไม่กระชับ  เหตุผลหลักที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้คือผิวที่ขาดคอลลาเจนนั่นเองค่ะ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าคอลลาเจนคืออะไร สำคัญอย่างไรกับผิวเรา  ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ผิวของเราขาดคอลลาเจน และสิ่งที่ควรรู้ที่สุดคือจะทำยังไงให้ร่างกายเราผลิตคอลลาเจนได้มากที่สุด วันนี้คุณหมอตุ้ม และ FAT center จะมาพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้กันค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วเรามาติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ

คอลลาเจน คืออะไร

คอลลาเจน คือ เส้นใยโปรตีนที่ทำหน้าที่คล้ายกาวเกาะยึดส่วนต่างๆ ในร่างกาย เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น คงความกระชับ เต่งตึง และเรียบเนียน

เมื่อผิวขาดคอลลาเจน จะเกิดผลเสียอะไรบ้าง?

  • ผิวย้วย หย่อนคล้อย ไม่กระชับ
  • ผิวแห้ง หยาบกระด้าง
  • ผิวมีริ้วรอย ดูแก่ก่อนวัย
  • แผลหายช้า
  • ผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย
  • มีอาการปวดตามกระดูกข้อต่อ
  • การเผาผลาญไขมันลดลง ทำให้เกิดไขมันส่วนเกินได้ง่ายขึ้น
ผิวย้วย หย่อนคล้อย ไม่กระชับ

10 สาเหตุที่ทำให้ผิวย้วย หย่อนคล้อย ไม่กระชับ

1.อายุเพิ่มขึ้น

อายุเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากว่าอายุคนเราเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจนกลับลดลง เมื่อลองสังเกตผิวเด็กหรือวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 25 ปี จะเห็นว่ามีความยืนหยุ่น ตึงกระชับ ใช้นิ้วกดที่ผิวแล้วเด้งกลับทันที เมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้น แผลจะหายเร็ว เป็นเพราะใต้ผิวหนังมีคอลลาเจนสะสมอยู่จำนวนมาก แต่เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้ลดลง ยิ่งอายุมากขึ้นผิวจะยิ่งแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น หย่อนคล้อย และจะค่อยๆเกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น การสมานตัวของแผลก็จะช้าลงอีกด้วย

2.การพักผ่อน และฮอร์โมน

การพักผ่อนที่ดีคือการนอนหลับอย่างเพียงพอ และการนอนหลับตรงเวลา หรือนอนในช่วงที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) เพราะเมลาโทนินเป็นฮอร์โมนตัวนำให้ฮอร์โมนชนิดอื่นๆ โดยที่เมลาโทนินจะหลั่งในช่วงเวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม ถ้าเข้านอนในช่วงนี้ได้ จะทำให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง ถือว่าเป็นการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ผิวจะเต่งตึงไม่แห้งกร้าน ไม่ย้วย หย่อนคล้อย

3.รังสี UVA และ UVB

แสงแดดจะมีรังสี UVA และ UVB ซึ่งรังสีเหล่านี้จะไปกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ ทำให้โปรตีนหรือคอลลาเจนใต้ผิวถูกทำลาย มักพบว่าคนที่ทำงานออกแดดกลางแจ้ง จะมีผิวที่แห้งเหี่ยวหยาบกร้านมากกว่าคนทั่วไป หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ต้องหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ ครีมกันแดดจะอยู่ได้ประมาณ 4- 6 ชั่วโมง หากต้องออกไปเผชิญแดดระหว่างวันแนะนำให้ทาซ้ำ หรือหลีกเลี่ยงโดยการใส่หมวก กางร่ม ใส่เสื้อแขนยาว ขายาว เพื่อป้องกันแสงแดดทำร้ายผิว

4.น้ำหนักลดเร็วในเวลาสั้น

การที่น้ำหนักลดลงมากภายในระยะเวลาสั้นๆนั้น คือการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี ทำให้ผิวกระชับตัวกลับมาไม่ทัน ผลเสียที่จะตามมาจากการลดน้ำหนักที่ผิดวิธีนี้ก็คือ ผิวย้วย หย่อนคล้อย เนื่องจากเมื่อน้ำหนักลดเร็วๆแล้วโปรตีนหาย ร่างกายขาดน้ำ ไขมันสลาย ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวเกิดช่องว่าง และไม่มีการสร้างกล้ามเนื้อมาแทนที่ไขมัน ผิวจึงย้วยลงมา

5.หลังดูดไขมันแล้วไม่ใส่ชุดกระชับ

การดูดไขมันจะทำให้ชั้นไขมันหายไปอย่างรวดเร็วไม่ต่างจากการที่ลดน้ำหนักแบบผิดวิธี หากต้องการให้ผิวบริเวณที่ดูดไขมันไปกระชับ และเข้าที่ไวขึ้น คนไข้จึงจำเป็นที่จะต้องใส่ชุดกระชับตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อยึดติดกันให้มากที่สุด โดยทั่วไปควรใส่ประมาณ 3 เดือนหลังการดูดไขมัน โดยที่ในเดือนแรกที่ดูดไขมันจะต้องใส่ 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษา

6.ดื่มน้ำน้อย ผิวขาดน้ำ

การดื่มน้ำจะเป็นการทดแทนน้ำที่ร่างกายเราสูญเสียไปในแต่ละวัน จริงๆแล้วคนเราควรดื่มน้ำ 1-1.5 เท่าของปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับ ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี การดื่มน้ำแต่พอดี จะทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวของเรามีความยืดหยุ่น เต่งตึง และเปล่งปลั่ง ดูผิวสุขภาพดี

7.การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะทำให้ขาดสติแล้ว ยังทำให้ผิวเราขาดความชุ่มชื้นด้วย เพราะเมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป จะทำให้ร่างกายเกิดการขับของเหลวในรูปแบบปัสสาวะออกไป และยังขับสารอาหารสำคัญอื่นๆ ออกอีกด้วย เมื่อน้ำออกจากร่างกายมากจะทำให้ผิวแห้งเหี่ยว ดูโทรม หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ต้องดื่มน้ำเปล่าตามเยอะๆ เพื่อขับเอาแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายให้มากที่สุด

8.การสูบบุหรี่

สารนิโคตินในบุหรี่จะขัดขวางระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง ทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิว ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ และเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง จึงทำให้ผิวขาดความเปล่งปลั่ง และเกิดความหมองคล้ำอีกด้วย

9.มลพิษและฝุ่นละออง ในอากาศ

ในปัจจุบันเราต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศอย่าง PM2.5 ซึ่ง PM2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ฝุ่นละอองชนิดนี้มีขนาดเล็กมากๆ จนขนจมูกของเราไม่สามารถกรองได้รวมถึงฝุ่นในอากาศ หรือโลหะหนัก และสารอื่นๆ ถ้าแพร่เข้าสู่ร่างกาย และถูกสะสมในอวัยวะต่างๆ จะทำให้เกิดผลเสียอีกมากมาย

10.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

เราต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อที่ร่างกายจะนำไปใช้สร้างคอลลาเจน ให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง สุขภาพดี หากทานแต่อาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งมากเกินไปและทานไม่ครบ 5 หมู่ อาจจะส่งผลเสียกับร่างกายได้ เช่น ผู้ที่ทานแต่มังสวิรัติ จะมีผิวที่หย่อนคล้อยกว่าคนอื่นๆ ส่วนผู้ที่ทานแต่เนื้อสัตว์ ก็จะขาดวิตามิน

ติดตามรับข่าวสารดี ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/FATcenter

โปรโมชั่นพิเศษ
เฉพาะลงทะเบียน ออนไลน์เท่านั้น

[[ FAT center ]] ดูดไขมัน..แบบปลอดภัย อบอุ่น ใส่ใจ 💕ดูแลอย่างใกล้ชิดโดย…ทีมแพทย์ทุกขั้นตอน

✅มาตรฐาน ✅ปลอดภัย ✅ตรงปก ✅ไม่แพง

ติดตามรับโปรโมชั่นดีๆได้ที่นี่